
วันนี้เข้าไปอ่านเวบถ่ายภาพ PIXPROS.NET ตั้งใจว่าจะถ่ายให้ดีเหมือนเขาสักวัน
มาสะดุดตากับห้องวิจารณ์ภาพครับ http://www.pixpros.net/forums/showthread.php?t=5904
ในนั้นท่าน Dust ตอบคำถามถึงการวิจารณ์พลังยุทธของตากล้องไว้อย่างดีว่า
" สุดท้ายที่ผมมักจะมองเป็นบทสรุป สำหรับการวิจารณ์ภาพคือ ภาพนั้น อยู่ระดับไหน
JOJO แบ่งไว้ดีมาก ผมขอนำมาถ่ายทอดให้ฟัง
1. ระดับต้น ผู้ถ่ายสามารถควบคุมกล้องได้อย่างใจ ทำให้ภาพที่ได้ มีความสมบูรณ์ด้านเทคนิค
2. ระดับกลาง ผู้ถ่ายสามารถสร้างเรื่องราวให้เกิดขึ้นในภาพได้ นอกจากความสมบูรณ์ด้านเทคนิคที่ต้องทำได้ดีด้วย
3. ระดับ ผู้ถ่ายสามารถสร้างจินตนาการให้เกิดขึ้นในสมองของผู้ชมภาพได้ สามารถนำให้ผู้ชมภาพ เกิดมโนทัศน์จากการชมภาพนั้นได้ อันนี้สุดยอดมาก ๆ "
สรุป คือ Execution >> Expression >> Imagination
ทำให้เห็นว่าศาสตร์ต่างๆนั้น เมื่อมุ่งสู่จุดสุดสูง จะมีความคล้ายคลึงกัน ผมเคยบอกนักเรียนว่า การฝึกอะไรให้เข้าขั้นเทพนั้น ต้องผ่านขั้นตอนของ
หลักการ >> วิธีการ >> จินตนาการ
ขั้นแรก หลักการและทฤษฎีต่างๆ ต้องแม่น ดึงมาใช้ได้ดังใจปรารถนา ขั้นนี้ต้องอาศัยการศึกษาค้นคว้าอย่างหนักแน่นจริงจัง
ขั้นที่สอง วิธีการ คือ รู้หลักการแล้วทำจริงได้หรือไม่ อันนี้ต้องลงสนามฝึกฝนอย่างหนักไม่มีทางลัด รู้ภาษาคอมมากมายเขียนโปรแกรมมากี่บรรทัด ถ้าไม่ถึงหมื่นบรรทัดในโปรแกรมเดียวอย่าเรียกตัวเองว่าโปรแกรมเมอร์ เล่นกล้องก็ต้องถ่ายรูปตลอดเวลา ถ้าไม่ถึงห้าหมื่นหรือแสนรูปอาจจะยังยากจะควบคุมกล้องได้ ให้ฝึกจนหลักการชำนาญจนฝังในตัวเป็นสัญชาติญาณ สามารถดึงวิธีการและหลักการมาได้อัตโนมัติ
ในนิยายกำลังภายในคือ ขั้นเราคือกระบี่ กระบี่คือเรา ทุกการเคลื่อนไหวแฝงกระบวนท่า ไร้จุดอ่อนช่องว่าง
ขั้นที่สาม ขั้นสองว่ายาก ขั้นนี้ยากกว่ามาก คือ ลืมกระบวนท่าให้หมดสิ้น จำแต่ สำนึกของวิชา หรือ ปรัชญาของวิชา ปล่อยตัวเองจากกระบวนท่า ใช้จินตนาการและสำนึกชี้นำ สร้างสรรค์สิ่งแปลกใหม่ออกมาให้ได้
สงสัยไหมครับ ทำไมปริญญาเอกทุกสาขาถึงเรียกว่า Ph.D เป็น Doctor of Philosophy หรือ ปริญญาด้านปรัชญา ถ้าไปเรียนสำนักดีๆ เขาจะจับท่านฝึกให้ย่างเข้าขั้นสาม จับสำนึกหรือปรัชญาของวิชาที่ท่านไปเรียนให้ได้แล้วพลิกแพลงคิดสิ่งใหม่ออกมา กว่าจะได้กระอักเลือดไปตามๆกัน
อีกอย่างที่อยากเล่าสู่กันฟัง คือ ง่าย >> ยาก >> ง่าย ใครอยู่ขั้นแรก จะเลือกทำอะไรแบบง่ายๆ เพราะไม่ชำนาญ พอเข้าขั้นสองก็จะร้อนวิชาพยายามพลิกแพลงอย่างมากมาย แต่พอบรรลุขั้นสาม เทพจริงจะแสดงพลังในความเรียบง่ายครับ เพราะใช้ท่าง่ายๆก็ชนะแล้ว ถ้ามาดูการเขียนโปรแกรม มือหัดใหม่จะ code แบบง่ายๆ มือขั้นกลาง จะพลิกแพลงมาก เทพจริงเขียนเรียบๆ ครับ บำรุงรักษาง่าย ทำงานเร็ว ไม่มีบั๊ก ไม่เชื่อลองไล่ Linux Kernel Code จะเห็นหลักของ Simplicity ทั้งนั้น
สุดท้ายถ้ายังไม่เชื่อ ผมขอยกคำพูดเทพตัวจริงมาเลยครับ

Albert Einstein quote...“Imagination is more important than knowledge.”
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น